มาตรฐานสากล ASTM A123: มาตรฐานเหล็กชุบกัลวาไนซ์ HDG
- Sale Support Team
- 2 ต.ค. 2567
- ยาว 1 นาที
อัปเดตเมื่อ 2 ต.ค. 2567

ASTM A123 เป็นมาตรฐานสากลที่กำหนดคุณสมบัติและข้อกำหนดสำหรับเหล็กชุบร้อนกัลวาไนซ์ (Hot-Dip Galvanized Steel) หรือที่เราเรียกกันติดปากว่าเหล็กชุบกัลวาไนซ์ HDG นั่นเอง มาตรฐานนี้ครอบคลุมถึงกระบวนการผลิต ข้อกำหนดทางกายภาพ เช่น ความหนาของชั้นสังกะสี และการทดสอบคุณภาพต่างๆ เพื่อให้มั่นใจว่าเหล็กชุบกัลวาไนซ์ HDG ที่ผลิตขึ้นมีความทนทานต่อการกัดกร่อนสูงสุด และเหมาะสำหรับการใช้งานในสภาพแวดล้อมที่หลากหลาย ความสำคัญของมาตรฐาน ASTM A123 เหล็กชุบกัลวาไนซ์ HDG
การันตีคุณภาพ: เมื่อผลิตภัณฑ์เหล็กชุบใดๆ ระบุว่าเป็นไปตามมาตรฐาน ASTM A123 นั่นหมายความว่า ผลิตภัณฑ์ชิ้นนั้นได้ผ่านการทดสอบและตรวจสอบคุณภาพตามมาตรฐานสากลแล้ว ผู้ใช้งานจึงมั่นใจได้ในคุณภาพและความทนทานของผลิตภัณฑ์
ความสม่ำเสมอของผลิตภัณฑ์: มาตรฐาน ASTM A123 นี้กำหนดเกณฑ์มาตรฐานค่าชั้นเคลือบสังกะสีที่ชัดเจน ทำให้ผู้ผลิตทุกรายต้องปฏิบัติตามขั้นตอนเดียวกัน ส่งผลให้ผลิตภัณฑ์เหล็กชุบที่ผลิตขึ้นมีคุณภาพที่สม่ำเสมอ เพื่อไม่ใช้ชิ้นงานเหล็กชุบกัลวานไว์ HDG ต่ำกว่าเกณฑ์มาตรฐาน
ความปลอดภัย: เหล็กชุบที่ผลิตตามมาตรฐาน ASTM A123 มีความปลอดภัยในการใช้งาน เนื่องจากผ่านการทดสอบและตรวจสอบคุณภาพอย่างเข้มงวด โดยจะมีการสุ่มตรวจชั้นเคลือบไมครอนของสังกะสีทุกล็อตการผลิต
การใช้งานที่หลากหลาย: เหล็กชุบกัลวาไนซ์ HDG ที่ได้มาตรฐาน ASTM A123 นี้สามารถนำไปใช้งานได้หลากหลาย เช่น ในงานก่อสร้าง โครงสร้างเหล็ก โครงสร่างโซล่าเซลล์ รถยนต์ และอุตสาหกรรมอื่นๆ ที่ต้องการวัสดุที่มีความทนทานต่อการกัดกร่อน
ข้อกำหนดหลักใน ASTM A123 มาตรฐานเหล็กชุบกัลวาไนซ์ HDG
ความหนาของชั้นสังกะสี: มาตรฐานนี้กำหนดความหนาขั้นต่ำของชั้นสังกะสีที่เคลือบบนผิวเหล็ก เพื่อให้มั่นใจว่าสามารถป้องกันการกัดกร่อนได้อย่างมีประสิทธิภาพ
การทดสอบความยึดเกาะ: มีการทดสอบเพื่อตรวจสอบความยึดเกาะระหว่างชั้นสังกะสีกับผิวเหล็ก เพื่อป้องกันการหลุดลอกของชั้นสังกะสี
การทดสอบความต้านทานต่อการกัดกร่อน: มีการทดสอบเพื่อประเมินความสามารถในการต้านทานต่อการกัดกร่อนของเหล็กชุบในสภาพแวดล้อมต่างๆ
การทดสอบความแข็งแรง: มีการทดสอบเพื่อตรวจสอบความแข็งแรงของเหล็กชุบหลังจากผ่านกระบวนการชุบ
ตารางเปรียบเทียบความหนาของชั้นสังกะสีตามมาตรฐาน ASTM A123 เหล็กชุบกัลวาไนซ์ HDG (ค่าโดยประมาณ)
ชนิดของเหล็ก | ความหนาของชั้นสังกะสี (ไมครอน) กรัมต่อตารางเมตร (g/m²) | การใช้งานทั่วไป |
แผ่นเหล็กทั่วไป / เหล็กรูปพรรณ ความหนา 2.3 มม ขึ้นไป | 55 - 65 μm | หลังคา, รั้ว, โครงสร้างเหล็กทั่วไป |
เหล็กเส้น RB เส้นกลม DB ข้ออ้อย | 45 - 55 μm | โครงสร้างเสริมคอนกรีต |
เหล็กแผ่นบาง น้อยกว่า 3.00 มม. | 35 - 45μm | ผลิตภัณฑ์ที่ต้องการความยืดหยุ่น |
เหล็กชิ้นส่วนขนาดเล็ก | 25 - 35 μm | ชิ้นส่วนเครื่องจักร, อุปกรณ์ไฟฟ้า |
ความหมายของค่าชั้นเคลือบสังกะสีในมาตรฐาน ASTM A 123 ต่างๆ:
กรัมต่อตารางเมตร (g/m²): เป็นหน่วยวัดน้ำหนักของสังกะสีที่เคลือบบนพื้นที่ 1 ตารางเมตร
การแปลง กรับ ต่อ ตารางเมตร ให้ นำไป หาร 7.14 จะได้ค่า ชั้นเคลือบเป็นหน่วยไมครอน
ไมครอน (μm): เป็นหน่วยวัดความหนา โดย 1 ไมครอน เท่ากับ 0.001 มิลลิเมตร
ปัจจัยที่ส่งผลต่อความหนาของชั้นสังกะสี
ชนิดของเหล็ก: เหล็กที่มีองค์ประกอบทางเคมีแตกต่างกัน จะต้องการความหนาของชั้นสังกะสีที่แตกต่างกัน
สภาพแวดล้อมในการใช้งาน: สภาพแวดล้อมที่มีความชื้นสูง หรือมีสารเคมีกัดกร่อน จะต้องใช้เหล็กชุบที่มีความหนาของชั้นสังกะสีมากขึ้น
อายุการใช้งานที่ต้องการ: หากต้องการให้เหล็กชุบมีอายุการใช้งานที่ยาวนาน ควรเลือกใช้เหล็กชุบที่มีความหนาของชั้นสังกะสีมากขึ้น
เหตุผลที่ควรเลือกเหล็กชุบที่ได้ ASTM A123 มาตรฐานเหล็กชุบกัลวาไนซ์ HDG
อายุการใช้งานยาวนาน: ด้วยความทนทานต่อการกัดกร่อนที่สูง ทำให้เหล็กชุบที่ได้มาตรฐานนี้มีอายุการใช้งานที่ยาวนานกว่าเหล็กชนิดอื่น
ลดค่าใช้จ่ายระยะยาว: การเลือกใช้เหล็กชุบที่มีคุณภาพดีจะช่วยลดค่าใช้จ่ายในการซ่อมแซมและบำรุงรักษาในระยะยาว
ความปลอดภัย: มั่นใจได้ในความปลอดภัยของโครงสร้างที่สร้างจากเหล็กชุบที่ได้มาตรฐาน
ความน่าเชื่อถือ: เป็นที่ยอมรับในระดับสากล ทำให้ได้รับความไว้วางใจจากผู้ใช้งาน
สรุป ASTM A123 มาตรฐานเหล็กชุบกัลวาไนซ์ HDG
มาตรฐาน ASTM A123 เป็นมาตรฐานที่สำคัญสำหรับเหล็กชุบร้อนกัลวาไนซ์ HDG การเลือกใช้เหล็กชุบที่ได้มาตรฐานนี้จะช่วยให้คุณมั่นใจได้ในคุณภาพและความทนทานของผลิตภัณฑ์ และเป็นการลงทุนที่คุ้มค่าในระยะยาว www.aprimeplus.com
ข้อมูลแต่งและเรียบเรียงโดยทีมงานการตลาดออนไลน์ บริษัท เอไพร์ม พลัส จำกัด ข้อความมีลิขสิทธิ์ @APLUS WATSADU
Comments